วัดหนองป่าพง
แนะนำสำนักฯ และเจ้าสำนักฯ
เป็นวัดป่าสายปฏิบัติ ซึ่งพระอาจารย์ชา สุภทฺโท ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับประพฤติปฏิบัติ ฝึกฝน อบรมพระภิกษุ-สามเณร ผู้มุ่งสู่ความพ้นทุกข์ ให้เป็นผู้มักน้อย สันโดษ เสียสละ พากเพียรเพื่อมรรคผลนิพพาน และนำพาไปสู่การเป็นสมณะที่งดงาม ด้วยการรักษาวัตรปฏิบัติตามธรรมวินัย อันจะเป็นเหตุให้เกิดความเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็น ร่วมประคองค้ำชูพระศาสนาให้มีอายุยืนยาว เจริญรุ่งเรือง กระทั่งต่อมาได้เป็นศูนย์กลางการอบรมสั่งสอน ตามหลักแห่งพระพุทธศาสนา ให้กับนักปฎิบัติธรรมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนเป็นแรงศรัทธาเกิดสาขาขยายไปยังประเทศทั่วโลก
เป็นวัดที่มีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เหมาะแก่การเล่าเรียนพระธรรมวินัยและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน เมื่อ พ.ศ. 2497 หลวงปู่ชา (พระโพธิญาณเถร) ได้ทำการบุกเบิกปรับปรุงพื้นที่ให้เหมาะสมแก่การปฎิบัติธรรมและได้จัดตั้ง เป็นสำนักสงฆ์ขึ้นในปีนั้น และเปลี่ยนสภาพเป็นวัดในโอกาสต่อมา
บริเวณวัดสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) เป็นอาคารที่จัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชา สุภัทโท เปิดให้เข้าชม ตอนเช้า เวลา 10.30-12.00 น. ตอนบ่าย เวลา 14.00-18.00 น. และยังมีเจดีย์ศรีโพธิญาณ เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ชา
พระโพธิญาณเถร หรือ พระอาจารย์ชา สุภทฺโืท
นามเดิม ชา ช่วงโชติ เกิดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2461 ณ บ้านก่อ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี อุปสมบทเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2482 ณ วัดก่อใน ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี อุปสมบทแล้วท่านได้อุทิศตนศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง แล้วจึงจาริกออกปฏิบัติธรรมตามป่าเขาลำเนาไพร จนเมื่อได้เวลาอันสมควร คือ พ.ศ. 2497 จึงกลับมาก่อตั้งวัดหนองป่าพง ซึ่งเป็นวัดป่าฝ่ายอรัญวาสีที่บ้านเกิด โดยมีท่านเองเป็นเจ้าอาวาส พร้อมทั้งได้เริ่มงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา แก่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ และได้ก่อตั้งวัดป่านานาชาติ เพื่อเป็นวัดนานาชาติสำหรับชาวต่างชาติ ที่ต้องการบวชในพระพุทธศาสนา นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบันวัดหนองป่าพง มีสาขาอยู่ทั้งในและต่างประเทศ จำนวนมาก รวมแล้วไม่น้อยกว่า 300 สาขา พระอาจารย์ู่ชามรณภาพเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 นับว่าเป็นพระมหาเถระ ที่มีผลงานทางด้านเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้านวิปัสสนาธุระที่โดดเด่นที่สุด รูปหนึ่งของสังคมไทยปัจจุบัน
พระราชภาวนาวิกรม (เลี่ยม ฐิตธมฺโม)
เกิด ณ บ้านโคกจาน ตำบล ทุ่งไชย อำเภออุทุมพรพิสัย ศรีสะเกษ พ.ศ. 2484 อายุ 19 ปี ปรารภจะเจริญรอยตามพระพุทธเจ้า จึงบวชเณร ณ วัดบ้านโคกจาน ปี 2504 อุปสมบทเป็นพระภิกษุ มุ่งหวังถอด ถอน ละกิเลสตัณหา ปฏิปทาเป็นผู้อดทน สันโดษ ถ่อมตัว ไม่ยินดียินร้ายในลาภ ยศ สรรเสริญ บำเพ็ญเพียรอย่างหนัก ตั้งแต่ พ.ศ. 2507 ได้ออกแสวงหาอาจารย์ มุ่งปฏิบัติ ขจัดกิเลส ปี 2512 ย้ายสำนักมาอยู่วัดหนองป่าพง มาอยู่ได้เพียง 5-6 วัน พระอาจารย์ู่ชาเมตตาเปลี่ยนบริขารทุกอย่างให้ใหม่หมด ปี 2516 กราบลาพระอาจารย์ู่ชาไปศึกษาข้อวัตรปฏิบัติของฝ่ายธรรมยุต ปี 2516 พระอาจารย์ู่ชาส่งไปเผยแผ่พระศาสนา ณ วัดสาขาที่เวียงจันทน์ และ 1 พรรษา ต่อมา ได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในลาว พระอาจารย์ชาจึงเรียกตัวกลับ ปี 2537 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง โดยพระอาจารย์เลี่ยม ฐิตธมฺโม ยอมรับ หน้าที่ด้วยเหตุผลว่า “จะทำงานเพื่อครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ ทำตามพระวินัย ผู้ที่ ทำหน้าที่นั้นต้องเสียสละ จึงจะทำหน้าที่นั้นและอยู่ได้อย่างสบาย ทำงานได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย” ท่านทำงานเป็นการออกกำลังกาย ทำงานด้วยความว่าง ทำไป เรื่อยๆ จึงจะไม่รู้สึกว่าหนัก แม้แต่การขบฉันก็ต้องฉันเพียงเพื่อประทังชีวิต ฉันตามความปรารถนาไม่ได้ เพราะฉันมากจะง่วงซึม
การอบรม
ข้อปฏิบัติสำหรับฆราวาส วัดหนองป่าพง
- มั่นคงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
- มีศีลห้าเป็นพื้น
- มีข้อปฏิบัติเป็นศีล5 หรอศีล 8
- ไม่ทำความสกปรกและช่วยกันรักษาความสะอาด ในที่อยู่ของตนและเขตส่วนรวม
- ตั้งใจทำความเพียร
- ช่วยเหลือกิจของสงฆ์ตามสมควรแก่กรณี
"แดนเคารพ" พุทธศาสนิกชน ทุกเพศ ทุกวัย เพื่อหายพยศ ลดมานะ ละทิฐิ
- ไม่มีกิจจำเป็น ห้ามเข้าไปคลุกคลีในกุฏิกับภิกษุและสามเณร
- ต้องถอดหมวก ถอดรองเท้าก่อน จึงเข้าไปในวัดด้วยอาการสำรวม
- จงสงบ กาย วาจา ใจ ให้มาก อย่าคะนองปาก มือ และเท้า
- ห้ามเปิดวิทยุ และ การละเล่นต่างๆ ภายในบริเวณวัด
- ห้ามนำสุราเข้ามาดื่ม และนำสัตว์มีชีวิตเข้ามาทำอาหารในบริเวณวัด
- ห้ามเก็บผลไม้ และเข้ามากินในวัด จะเป็นการก่อกวนความสงบ
- ห้ามขับรถเข้าออก เร็วเกินควร เพราะเสียงจะรบกวนผู้กำลังปฏิบัติ
- ต้นไม้ และสัตว์ป่า เป็นสมบัติอันล้ำค่า จงช่วยกันรักษาเพื่อลูกหลาน
ที่อยู่-การติดต่อ
แผนที่-การเดินทาง
วัดหนองป่าโพงตั้งอยู่ที่บ้านก่อ อ.วารินชำราบ อยู่เยื้องไปทางทิศเหนือของสถานีรถไฟอุบลราชธานี ตามถนนสายอุบล-กันทรลักษ์ เส้นทางหลวงหมายเลข 2178
ห่างจากตัวอำเภอวารินชำราบประมาณ 6 กิโลเมตร ทางเข้าอยู่ทางด้านขวามือ วัดอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1 กิโลเมตร
หากต้องการความรวดเร็วจะนั่งแท็กซี่ที่สถานีรถไฟไปก็ได้ ค่าแท็กซี่ประมาณ 60-100 บาท
หากต้องการประหยัด ให้นั่งสามล้อไปลงที่ป้ายรถเมล์ (รถเมล์คันสีชมพูสาย 3) ขึ้นรถเมล์ไปลงที่สุดสายที่บ้านก่อแล้วเดินเข้าวัด
แต่มีรถทัวร์บางสายจะผ่านทางเข้าหนองป่าโพง ก่อนไปถึงตัวอำเภอเมืองวาริน และอำเภอเมือง
การเดินทางแนะนำให้เดินทางไปถึงตอนเช้า จะได้ไม่ลำบากในการเดินทางต่อ
- 33272 reads
ความคิดเห็น
ถ้าต้องการไปปฎิบัติธรรม ต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ ติดต่อที่ไหน อย่างไร
มีสถานที่ ๆ อยากจะไปที่ใดที่หนึ่งเป็นพิเศษแล้วหรือยัง อยากปฏิบัติธรรมที่วัดหนองป่าพงหรือที่ไหนครับ จะได้แนะนำให้เหมาะสมกับรูปแบบที่ต้องการ
จะเน้นบรรยากาศ, สนใจการปฏิบัติสายไหน หรืออยากได้แบบเข้มข้น
ทางวัดหนองป่าพงน่าจะจัดทำเนียบสาขาของวัดให้เป็นระบบ และสามารถสืบค้นได้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการศึกษา และแนวทางการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานของทางวัดให้ชัดเจนและละเอียด
อยากทราบว่า สามารถไปพักและฝึกปฏิบัติที่วัดหนองป่าพงได้หรือเปล่าคะ
ไปกัน 2 คน ชาย หญิง (พี่น้อง) คะ เบื้องต้นอยากไปพักสัก หนึ่งคืนก่อนอ่ะคะ
ต้องทำอย่างไรบ้างคะ
กราบขอบพระคุณคะ
วัดหนองป่าพงน่าเลื่อมใสมากครับ โดยเฉพาะวัตรปฏิบัติของลูกศิษย์หลวงพ่อชา
คุณพ่อผม (ปัจจุบันเสียชีวิตไปเเล้ว) ท่านมักจะพาพวกเราพี่น้องไปวัดเสมอๆ
เเละท่านยังเคยให้หลวงพ่อชาตั้งชื่อให้ตอนผมเกิดด้วย
ปัจจุบันผมอายุ 36 เเล้ว ยังเคยตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสบวชจะมาบวชที่นี่ครับ
บรรยากาศน่าทึ่งมากตรงที่ความร่มเย็นสบาย มืดครึ้ม เหมาะเเก่ผู้เเสวงหาธรรมโดยเฉพาะ
ปัจจุบันผมทำรีสอร์ทอยู่ไม่ห่างจากวัดนัก ท่านที่สนใจรายละเอียดการเดินทาง
สอบถามมาที่ผมได้ครับบริการฟรี 080-7316709
ดิฉันต้องการไปปฏิบัติธรรม ที่วัดหนองป่าพง ในเดือน มกราคม 55 เริ่มเมื่อไหร่ ต้องเตียมอะไรไปบ้าง ที่พักเป็นอย่างไร ตอบด้วยค่ะ
ต้องการทราบว่าวัดหนองป่าพง จะมีการรับเข้าปฎิบัติธรรม เมื่อไร
ดิฉันไม่เคยปฎิบัติธรรมเลยและไม่เคยนั่งสมาธิ ต้องการเรียนรู้วิธีทำให้ใจสงบ
อยากทราบว่าสามารถเข้าไปปฏิบัติธรรมได้ทุกวันหรือไม่ แล้วเรื่องที่พักต้องเตรียมอะไรไปพิเศษหรือไม่ครับ ใครรู้รบกวนส่งเมลมาที่ pamornb@gmail.com อนุโมทนาสาธุ สำหรับคำตอบด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น